หนุนเกษตรกรใช้ไตรโคเดอร์ม่า แก้ปัญหาโคนเน่า–หัวเน่ามันสำปะหลัง | เดลินิวส์
„นายประสงค์ ประไพตระกูล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ยกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากรายงานของสำนักงานเกษตรจังหวัด 54 จังหวัด เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา มีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง 9,303,686 ไร่ พบปัญหามันสำปะหลังโคนเน่า-หัวเน่า เนื่องจากสภาพอากาศที่เริ่มมีฝนตกทุกภาค เป็นสภาพที่เหมาะสมต่อการเกิดโรค ขณะนี้พบการระบาดในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ จ.นครราชสีมา และจ.กาฬสินธุ์ รวม 1,620 ไร่ แบ่งเป็นระดับไม่รุนแรง จำนวน 855 ไร่ และระดับรุนแรง จำนวน 765 ไร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่เป็นดินอุ้มน้ำ ไม่ว่าจะเป็นดินเหนียวหรือดินดาน ที่มีการระบายน้ำไม่ดี เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาของโรคนี้ อย่างไรก็ตาม กรมวิชาการเกษตร และกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เร่งหาสาเหตุและการแก้ปัญหา และรณรงค์ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่าควบคุมในพื้นที่ที่พบการระบาด พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรสำรวจพื้นที่เกิดปัญหาโคนเน่า–หัวเน่า เพื่อเตรียมการควบคุมให้ครอบคลุมพื้นที่ สำหรับเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่สามารถควบคุมและยับยั้งการเกิดโรครากโคนเน่า รวมถึงโรคเหี่ยว เมล็ดเน่า กล้าไหม้ เน่าคอดิน แอนแทรกโนส ทั้งในพืช ผัก ไม้ผัก ไม้ดอก รวมทั้งลดการเกิดกาบใบไหม้ ปัจจุบันเกษตรกรสามารถผลิตเพื่อใช้ได้เองโดยใช้หัวเชื้อบริสุทธิ์ และใช้ข้าวสุกเป็นอาหารเลี้ยงเชื้อ โดยมีวิธีการผลิตไม่ยุ่งยากและใช้เวลาไม่นาน ทั้งนี้เกษตรกรควรหมั่นสำรวจตรวจแปลงปลูก หากพบอาการใบเหลือง เหี่ยว และโคนต้นเริ่มเน่า ให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ เพื่อขอคำแนะนำในการปฏิบัติที่ถูกต้อง โดยในเบื้องต้น แนะนำให้ใช้เชื้อราไตรโค เดอร์ม่า (เชื้อสด) อัตรา 10 กก.ผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1,000 กก./ไร่ โรยโคนต้น หรือหากพบในมันสำปะหลังที่มีอายุมากกว่า 3 เดือน ให้ใช้ปูนขาวหว่านโดยรอบหรือให้ฉีดพ่นสารเคมี ฟอสอีทิล อะลูมิเนียม อัตรา 50 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ราดต้นละ 300 ซีซี หรือพ่นอัตรา 150 กรัม/ไร่ โดยรอบห่างออกไปประมาณ 1 เมตร อีกวิธีหนึ่งที่กรมส่งเสริมการเกษตร แนะนำเพื่อตัดวงจรการระบาดของโรค คือ ให้พิจารณาปลูกพืชหมุนเวียน เช่น ข้าวโพดหรืออ้อย หรือปรับปรุงบำรุงดินด้วยพืชปุ๋ยสด เช่น ถั่วพุ่ม ถั่วพร้า ที่สำคัญในช่วงการเตรียมแปลงปลูก ควรใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า (เชื้อสด) อัตรา 10 กก.ผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1,000 กก./ไร่ ร่วมด้วย ที่สำคัญการใช้ท่อนพันธุ์ที่สมบูรณ์ แข็งแรง จากแหล่งที่ไม่เป็นโรค หรือการแช่ท่อนพันธุ์ก่อนปลูกด้วยสารกำจัดเชื้อรา หรือใช้พันธุ์ที่ทนทานต่อการเน่า เช่น ระยอง 72 เป็นสิ่งที่เกษตรกรควรพิจารณาในการปลูกในครั้งต่อไปด้วย.“
คิวอาร์โค้ด ID Line : autobig22
หน้าที่เข้าชม | 395,901 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 272,047 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 พ.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |
คลิปวีดีโอเพื่อเกษตรกร