รหัสสินค้า | RM - 00133 |
หมวดหมู่ | เมล็ดพันธุ์พืช-ผลไม้และผักสวนครัว |
ราคา | 45.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | ราคาสินค้ายังไม่รวมค่าขนส่ง |
ลงสินค้า | 24 ม.ค. 2559 |
อัพเดทล่าสุด | 16 ก.พ. 2559 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | ซอง |
เมล็ดพันธุ์ต้นหอมญี่ปุ่น Japanese Bunching Onion 500 เมล็ด 45 บาท จำนวนสั่งซื้อขั้นต่ำตั้งแต่ 3 ชิ้นขึ้นไป
ต้นหอมญี่ปุ่นในเมนูอาหารญี่ปุ่นเกือบทุกชนิดสิ่งที่มักขาดไม่ได้เลยคือ ต้นหอมญี่ปุ่น ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะนำมาเป็นส่วนประกอบเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาดของอาหาร ไม่ว่าจะผสมในซุป หรือซอสที่ใช้รับประทาน รวมถึงการนำมาใส่ในสุกี้ยากี้ และเนื้อย่างประเภทต่างๆ อีกด้วย
ต้นหอมญี่ปุ่นจะมีลักษณะที่แตกต่างจากต้นหอมไทยตรงที่ ลำต้นของต้นหอมญี่ปุ่นจะมีขนาดใหญ่ ที่โคนต้นจะไม่ป่องออกเป็นกระเปราะเหมือนหอมไทย ต้นหอมญี่ปุ่นจะมีลักษณะที่คล้ายกับต้นหอมฝรั่ง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นคนละชนิดกัน โดยต้นหอมฝรั่งจะเรียกว่า รีคิ (Riiki) ส่วนต้นหอมญี่ปุ่นจะเรียกว่า เนกิ (Negi) โดยมีข้อสังเกตุระหว่างต้นหอมฝรั่ง กับต้นหอมญี่ปุ่นดังนี้
1. ใบของต้นหอมญี่ปุ่นจะเป็นหลอดกลวง เนื้อละเอียดในขณะที่ใบของต้นหอมฝรั่งจะแบนและหยาบกว่า
2. ต้นหอมญี่ปุ่นจะมีกลิ่นหอม และรสหวาน ส่วนต้นหอมฝรั่งจะมีกลิ่นฉุนกว่า
ต้นหอมญี่ปุ่นเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ปัจจุบันรู้จักแพร่หลายทั่วโลก หอมญี่ปุ่นเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ลำต้นจริงมีลักษณะเป็นแผ่นอยู่ระหว่างรากและใบ ใบลักษณะเป็นหลอดกลวงปลายแหลม คล้ายใบหอมหัวใหญ่ แต่มีขนาดใหญ่กว่า มีลำต้นเทียมคือส่วนของกาบใบ ลักษณะกลมยาวสีขาวขยายตัวตามยาว ทำหน้าที่สะสมอาหาร เป็นส่วนที่นำมาใช้บริโภค ทำแกงจืด ผัดกับ เนื้อต่าง ๆ ตุ๋นแบบจับฉ่ายหรือทำสลัด เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศค่อนข้างเย็น ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดและการแยกกอ ที่สำคัญจะต้องได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน ดินมีการระบายน้ำได้ดี เช่น ดินร่วนปนทราย มีหน้าดินลึก มีอินทรีย์วัตถุสูง ไม่ชอบดินที่เป็นกรดสูง โดยค่า pH ที่เหมาะสมกับการปลูกต้นหอมคือ 6.8 พื้นทีๆ มีการปลูกต้นหอมญี่ปุ่นมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดเลย, เชียงใหม่, เชียงราย, แม่ฮ่องสอน
ต้นหอมจะมีลำต้นจริงอยู่ระหว่างรากและใบ โดยที่ใบจะมีลักษณะเป็นหลอดยาว มีใบจำนวน 6 - 7 ใบต่อต้น โดยใบนอกหรือใบแก่มี 4 ใบ และใบด้านในหรือใบอ่อน 2 - 3 ใบ ลำต้นเทียม คือส่วนของกาบใบที่ทำหน้าที่สะสมอาหารเป็นส่วนที่นิยมนำมาบริโภคมากที่สุด เพราะเป็นส่วนที่น้ำตาล, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส วิตามิน A, C, K ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และลดคลอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย
คิวอาร์โค้ด ID Line : autobig22
หน้าที่เข้าชม | 395,901 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 272,047 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 พ.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |
คลิปวีดีโอเพื่อเกษตรกร